คาปูชิโน่ (Cappuccino) และ ลาเต้ (Latte) เป็นเครื่องดื่มที่รู้จักกันดีในวงการกาแฟทั่วโลก แม้ว่าทั้งคู่นี้จะมีความคล้ายคลึงกันในบางจุด แต่ก็มีความแตกต่างที่น่าสนใจที่ควรทราบ เมื่อคุณต้องการสั่งกาแฟแบบใดควรคำนึงถึงความแตกต่างนี้เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่สุด
1. ส่วนประกอบหลักของคาปูชิโน่และลาเต้
เริ่มจากส่วนประกอบหลักของทั้งคาปูชิโน่และลาเต้ ทั้งสองนี้มีส่วนผสมหลัก 3 ส่วนคือ กาแฟ, นม, และนมผงโฟม (หรือฟอยล์) แต่มีสัดส่วนที่แตกต่างกันอย่างมาก
- คาปูชิโน่: มีส่วนแค่น้อยของนมและนมผงโฟม ส่วนใหญ่จะเป็นกาแฟ ดังนั้นจะมีรสชาติของกาแฟที่เข้มข้นและเข้มข้น
- ลาเต้: มีส่วนมากของนมและนมผงโฟม ทำให้มีรสชาติที่นุ่มนวลและหวานกว่าคาปูชิโน่
2. สัดส่วนของคาปูชิโน่และลาเต้
ส่วนสำคัญอีกอย่างที่แตกต่างกันคือสัดส่วนของส่วนประกอบที่ใช้ในการทำเครื่องดื่มเหล่านี้
- คาปูชิโน่: สัดส่วนประมาณ 1/3 กาแฟ, 1/3 นม, 1/3 นมผงโฟม
- ลาเต้: สัดส่วนประมาณ 1/6 กาแฟ, 4/6 นม, 1/6 นมผงโฟม
ความแตกต่างในสัดส่วนนี้ส่งผลต่อความเข้มข้นและความหวานของเครื่องดื่ม คาปูชิโน่จะมีรสชาติของกาแฟที่เข้มข้นและนมผงโฟมจะช่วยเพิ่มความคล้ายกับโฟมอาราบิก้าบนผิวน้ำ ในขณะที่ลาเต้จะมีรสชาตินมที่หวานและนุ่มนวลมากขึ้น
3. การเสิร์ฟและการตกแต่ง
การเสิร์ฟและการตกแต่งเครื่องดื่มเหล่านี้ก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน
- คาปูชิโน่: มักจะเสิร์ฟในแก้วที่เล็กกว่า โดยมักจะมีการสกรีมมาตรฐานบนพื้นผิวของน้ำกาแฟ เพื่อเพิ่มความหวานและความหรูหรา
- ลาเต้: มักจะเสิร์ฟในแก้วใหญ่กว่า และไม่มีการสกรีมบนพื้นผิว เมื่อท่านจะสั่งลาเต้คุณสามารถเลือกเพิ่มน้ำเพื่อทำให้รสชาตินมนุ่มนวลมากขึ้น
4. ความเหมาะสมในการรับประทาน
ความเหมาะสมในการรับประทานคาปูชิโน่หรือลาเต้ขึ้นอยู่กับรสชาติและความชอบส่วนตัวของคุณ ถ้าคุณชอบรสชาติของกาแฟที่เข้มข้นและเข้มข้น คาปูชิโน่อาจเป็นเลือกที่ดีสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณชอบรสชาติที่นุ่มนวลและหวาน ลาเต้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
5. สรุป
คาปูชิโน่และลาเต้เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่มีความแตกต่างในส่วนประกอบ สัดส่วน การเสิร์ฟ และรสชาติ คุณสามารถเลือกตามรสนิยมของคุณและสั่งเครื่องดื่มที่ตรงกับความชอบของคุณได้อย่างสบายใจ
คำถามที่พบบ่อย
1. คาปูชิโน่และลาเต้ต่างกันยังไงในเรื่องของรสชาติ?
คาปูชิโน่มีรสชาติของกาแฟที่เข้มข้นและนมผงโฟมที่ช่วยเพิ่มความหวาน ในขณะที่ลาเต้มีรสชาตินมที่นุ่มนวลและหวานมากขึ้น
2. สามารถปรับสัดส่วนของส่วนประกอบในคาปูชิโน่และลาเต้ได้หรือไม่?
ใช่ คุณสามารถขอปรับสัดส่วนของส่วนประกอบในคาปูชิโน่และลาเต้ได้ตามความชอบส่วนตัวของคุณที่ร้านกาแฟที่คุณเลือก
3. ทำไมลาเต้มักไม่มีการสกรีมบนพื้นผิว?
ลาเต้มักไม่มีการสกรีมบนพื้นผิวเพราะส่วนประกอบนมและนมผงโฟมมีสัดส่วนมากกว่า นี่ทำให้มีรสชาตินุ่มนวลและไม่จำเป็นต้องมีการสกรีมเพิ่มเติม
4. มีความแตกต่างในการเสิร์ฟคาปูชิโน่และลาเต้อย่างไร?
คาปูชิโน่มักจะเสิร์ฟในแก้วที่เล็กกว่าและมีการสกรีมบนพื้นผิว ในขณะที่ลาเต้มักจะเสิร์ฟในแก้วใหญ่กว่าและไม่มีการสกรีมบนพื้นผิว
5. ที่มาของคาปูชิโน่และลาเต้คืออะไร?
คาปูชิโน่มาจากอิตาลีและเป็นเครื่องดื่มกาแฟที่มีนามว่า “cappuccino” ส่วนลาเต้มาจากฝรั่งเศสและนามว่า “café latte” ซึ่งแปลว่า “กาแฟนม” ในฝรั่งเศส
คาปูชิโน่ vs ลาเต้ ต่างกันยังไง [VIDEO]
“าปูชิโน่ vs ลาเต้ ต่างกันยังไง
ทำกาแฟโครตง่ายยยยยยยยย
ช่วยกดติดตาม Subscribe ในช่อง นี้ด้วยนะครับ เป็นกำลังใจเพื่อจะทำคลิปต่อไป หรือถ้าใครมีคำถาม
#coffee #opurecafe #Cafe #Cafebangkok #bangkok #thailand #travel #latteart #goodcoffee #mirage #Spirit3group #Coffeemachine #cake #homemade #Latte #cappuccino #Americano #coffeeshop #coffeelover #coffeetime #coffeeoftheday #cafehoppingbkk #canon #coffeebeans #barista #icecoffee #icelatte #ลาเต้อาร์ต”
เนื้อหาของวิดีโอ คาปูชิโน่ vs ลาเต้ ต่างกันยังไง
สวัสดีครับนะครับมันก็ขอต้อนรับเข้าสู่เพียวเบเวอเรจนะครับวันนี้ผมจะมาทำกาแฟ 2 แก้วแรกคือลาเต้ 92 คือ คาปูชิโน่เนอะเดี๋ยวจะทำให้ดูว่า มันแตกต่าง ก่อนอื่นเลยมาสังเกตตรงนี้ก็คือเราจะทำช็อตก่อนเนาะเดี๋ยวเราทำช็อตเลย ปึ๊บนะ เราทำข่าวเสร็จแล้วเราก็แสตมป์เนาะ แต่เราจะใช้ใน stamp เอา ก็ประมาณ 18 กรัมนะประมาณ 18 กรัมก็ทำความสะอาดปุ๊บพอเข้าไปปุ๊บ เอาเลยเริ่มทำช็อต ดูอะไหล่ โอเคทำซอสเสร็จปุ๊บ เราก็มาดูตรงนี้เลยว่าเราจะทำยังไงก็คือเราจะเท่น้อม น้ำเดี๋ยวสังเกตดูเนาะก็ผมก็จะมีไอ้นี่ไว้ละขีดเส้นไว้ละ ว่ามันจะต้องเป็น 120 ก็เทประมาณนี้เลยอ่ะมา แล้วก็เทนม 120 อันนี้สมมุติเป็นลาเต้แล้วกันนะอันนี้เป็นคาปู เท่ากันเลยนะ สติ๊กเกอร์ หลังจากนั้นเราก็ตีนม ตีเป็นแก้วเลยง่ายมาก ตีให้ปอมันขึ้นจะตีให้ฟองขึ้นต่อเมื่อนมต้องเย็นจัดเท่านั้นนะถ้า นมไม่เย็นเนี่ยมันก็จะตีไม่ขึ้นอย่าตีไปเลยตีให้มันเนียนไปเลยอ่ะเข้ามาดูใกล้ๆนี่ มันเริ่มเรียนแล้วทำไมต้องเนียนมากๆเพราะว่า ปอมันจะได้ไม่สลายไปง่ายๆมันก็จะอยู่นานฟอง แล้วมันก็จะเนียนมากๆ พอแล้ว ลองมาดูใกล้ๆนี่มันเนียนมากเห็นป่ะ มันเนียนจนเงาอะไรอย่างเงี้ยก็พอแล้ว ทริคในการทำคาปูง่ายมากนะครับก็คือ เราต้องเทออกก่อนไม่งั้นเราจะใส่น้ำแข็งไม่ได้เดี๋ยวจะเทให้ดูนะ ให้คดีนะแล้วเราก็ตักน้ำแข็งใส นอนลาเต้เราได้แล้ว พร้อมแล้ว เปิดแล้วก็ลงเลย เรียบร้อยลาเต้ง่ายมากนะครับ ต่อไป ก็เดี๋ยวเป็นคาปูนะคาปูแล้วก็จะเอา จะไปคอร์ดเพลงอันนี้มันจะตัดอัตโนมัติ เดี๋ยวแป๊บนึงเกี่ยวแ***เมื่อกี้มันยังไม่ถึง 18 กรัมนี้ผมกะเอา เอามา 18 กันเนาะ จักรยานลงไป โอเคลายสวยก็ต่อไปก็ใส่น้ำแข็งของคาร์ฟู เห็นไหมครับต้องเอาต้องเอาฟองนมออกไปก่อนนะเพราะว่าอะไรเพราะว่าเวลาเรา การันตีเนี่ยถ้าเกิดเราเราใส่น้ำแข็งน้อยเดี๋ยวพอไปตั้งให้ลูกค้าเนี่ย มันก็จะลดลงไปแล้วลูกค้าก็จะบอกว่าเฮ้ยทำไมมันไม่เต็มนะครับ วิธี ใส่ลงไปหาเสร็จแล้วนะใส่ลงไป ฉาบปูน ขายไปแล้วก็แล้วก็โรยช็อกโกแลตลงไปบางๆก็อาจจะใส่ซินนาม่อนนะ เสร็จแล้วทำไงเราก็ใส่ ไอ้นี่ก่อน ไอ้ฟ้าไปก่อนบางร้านก็ใส่ฝาโดมนะบางร้านก็ใส่ฝาเหลี่ยม แล้วเราก็ เอาส่วนที่เหลือลงไปมันใกล้ๆดูค่อยๆ ฟองมันฟองมันเริ่มข้นนะครับ มันอาจจะมีเลอะเทอะบ้างเนาะเดี๋ยวเราค่อยเช็คเอา หาเรียบร้อยแค่นี้เองเดี๋ยวเราเช็ดเอา ก็แล้วก็เช็ดเอา เรียบร้อยแค่นี้เองง่ายมากเห็นไหมครับ ดูคาปูมันก็จะเป็นชั้นเนาะลาเต้ก็จะเป็นชั้น สวยงาม พร้อมดื่มอันนี้ไม่ใส่น้ำตาลเลยนะสำหรับคนที่ไม่กินหวานเลย เขาก็จะ ดื่มด่ำกับจริงๆแล้วกาแฟเนี่ยก็คือ ต้องสวยอ่ะ มันถึงจะกินอร่อย แต่ก็ต้องอร่อยด้วยนะ โอเคก็ฝากไว้แค่นี้เนาะก็ลาเต้คาปูต่างกันตรงไหนทุกคนก็ลองพิจารณาดูว่ามันต่างกันเลยแต่ว่าสัด ส่วนในการทำ คือเท่า แค่มีฟองช็อกโกแลต แค่นี้นะยังไงก็ฝากกดไลค์กดแชร์กดติดตามด้วย ขอบคุณนะครับ